หน้าแรก | โรงพยาบาลโนนคูณ
logoNKH

มาตรฐานระบบบริการสุขภาพ 9 ด้าน (HS4) ปีงบประมาณ 2568


รายการมาตรฐานหมวดหมู่ ด้านที่ 3 อาคาร สถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวก


ลำดับ ชื่อมาตรฐาน HS4 ไฟล์แนบที่ 1 ไฟล์แนบที่ 2 ไฟล์แนบที่ 3
1 AR หมวดงานสถาปัตยกรรม
2 3.1.1. มีแผนแม่บท (แผนพัฒนาและวางผังโรงพยาบาลด้านอาคารและสภาพแวดล้อม)
3 3.1.2. มีผังบริเวณของโรงพยาบาลที่เป็นปัจจุบัน
4 3.2.1. ทางเข้า-ออกหลักของโรงพยาบาล มีการแบ่งช่องทางสัญจรสำหรับยานพาหนะและผู้สัญจรทางเท้าอย่างชัดเจน
5 3.2.2. ทางเข้า-ออกหลักของโรงพยาบาล กรณีช่องทางเดินรถทางเดียว (one-way) ต้องมีความกว้างไม่น้อยกว่า 3.50 เมตร กรณีช่องทางเดินรถสองทาง/เดินรถสวนทาง (two-way) ต้องมีความกว้างไม่น้อยว่า 6 เมตร
6 3.3.1. มีป้ายนำทางบอกทิศทางและระยะทางสู่โรงพยาบาล ติดตั้งอยู่บนถนนสาธารณะสายหลัก สายรอง และทางแยกในระยะที่เหมาะสม
7 3.3.2. มีป้ายจราจรภายในโรงพยาบาล ติดตั้งในตำแหน่งที่เหมาะสม สามารถมองเห็นได้ชัดเจน (ประเมินเฉพาะบริเวณส่วนให้การรักษาพยาบาล)
8 3.3.3. มีป้ายบอกทางไปยังอาคาร/แผนกต่างๆ มองเห็นได้ชัดเจน พร้อมระบบไฟส่องสว่างที่เหมาะสม
9 3.3.4. มีป้ายชื่อโรงพยาบาล ป้ายชื่ออาคารที่เป็นหน่วยบริการสำคัญ ได้แก่ แผนกฉุกเฉิน แผนกผู้ป่วยนอก เป็นต้น ติดตั้งอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม สามารถมองเห็นได้ชัดเจนในเวลากลางวันและมีไฟส่องสว่างในเวลากลางคืน
10 3.4.1. บริเวณจุดตัดถนน มีป้ายบอกทางชัดเจนและปราศจากสิ่งบดบังสายตา
11 3.5.1. ในจุดที่เป็นทางข้ามถนนและมีความต่างระดับ จะต้องทำทางลาดเอียง ให้สามารถนำเก้าอี้มีล้อ (Wheelchair) หรือผู้ทุพพลภาพหรือคนชราผ่านได้โดยสะดวก รวมทั้งต้องจัดให้มีป้ายเตือนผู้ขับขี่ยานพาหนะว่าเป็นทางข้ามสำหรับผู้เดินเท้า
12 3.6.1. มีทางเดินเชื่อมระหว่างอาคารในทุกหน่วยบริการของโรงพยาบาล ความกว้างประมาณ 2.50 เมตร เพื่อสะดวกต่อการเข็นเปลนอนผู้ป่วยสวนกันได้ และไม่มีสิ่งกีดขวางที่เป็นอุปสรรคต่อการสัญจร
13 3.6.2. ติดตั้งราวกันตก สูงประมาณ 1.10 เมตร
14 3.6.3. ติดตั้งราวจับ สูงประมาณ 0.80-0.90 เมตร
15 3.6.4. มีหลังคาหรือสิ่งปกคลุมที่ป้องกันแดดและฝนตลอดแนว
16 3.7.1. กรณีที่ระดับพื้นอาคารมีความต่างระดับกันมากกว่า 1.3 เซนติเมตร จะต้องทำทางลาดเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้รับบริการ
17 3.7.2. มีความกว้างสุทธิไม่น้อยกว่า 0.90 เมตร ยกเว้นกรณีสองทางสวนกันได้ ต้องมีความกว้างสุทธิไม่น้อยกว่า 1.50 เมตร ตลอดเส้นทาง
18 3.7.3. ทางลาดที่ไม่มีผนังกั้น ให้ยกขอบสูง 10 เซนติเมตร ต้องมีราวจับและราวกันตก (ราวจับสูงประมาณ 0.80-0.90 เมตร ราวกันตกสูงประมาณ 1.10 เมตร)
19 3.7.4. ทางลาดที่มีความยาวตั้งแต่ 1.80 เมตรขึ้นไป ต้องมีราวจับทั้งสองด้าน (ราวจับสูงประมาณ 0.80-0.90 เมตร)
20 3.7.5. ทางลาดภายนอกต้องมีหลังคาหรือสิ่งปกคลุมที่ป้องกันแดดและฝนตลอดแนว
21 3.7.6. ห้องหรือแผนกที่ให้การรักษาพยาบาลผู้ป่วยตั้งแต่ที่ชั้น 2 ขึ้นไป ต้องจัดให้มีทางลาดหรือลิฟต์ (BED LIFT)
22 3.8.1. มีที่จอดรถสำหรับผู้พิการอยู่ใกล้ทางเข้าอาคารผู้ป่วยนอก และมีป้ายหรือเครื่องหมายแสดงอย่างชัดเจน
23 3.8.2. แยกพื้นที่จอดรถยนต์และรถจักรยานยนต์ออกจากแนวทางวิ่งของรถ รวมทั้งแสดงเครื่องหมายทิศทางอย่างชัดเจน
24 3.9.1. มีความกว้างของถนนพอที่รถยนต์คันอื่นสามารถผ่านไปได้ขณะที่มีรถยนต์จอดรับ-ส่งผู้ป่วยอยู่
25 3.9.2. ระดับพื้นของบริเวณรับ-ส่งผู้ป่วยต้องอยู่ในระดับเดียวกับพื้นถนน ถ้าเป็นพื้นต่างระดับต้องปาดมุมหรือมีทางลาดที่เหมาะสม
26 3.9.3. มีหลังคาหรือสิ่งปกคลุมที่สามารถป้องกันแดดและฝน
27 3.10.1. มีห้องน้ำ-ส้วม สำหรับผู้พิการ-ผู้สูงอายุ ภายในมีราวพยุงตัวติดตั้งในตำแหน่งที่เหมาะสม
28 3.10.2. มีห้องน้ำสำหรับเด็กเล็ก เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด
29 3.11.1. มีความกว้างของบันไดและชานพักที่สะดวกต่อการใช้งานและไม่มีสิ่งกีดขวาง
30 3.11.2. มีตัวเลขระบุชั้นอยู่ภายในตัวบันไดที่มองเห็นได้ชัดเจน
31 IN หมวดงานมัณฑนศิลป์
32 3.12.1. ภายในห้องตรวจ ติดตั้งอ่างล้างมือสำหรับแพทย์ ไม่ควรใช้ปะปนกับอ่างเทสิ่งสกปรกหรือ ล้างวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ และก๊อกน้ำควรใช้ก๊อกน้ำชนิดไม่ใช้มือสัมผัส (ก๊อกน้ำชนิดก้านปัดด้วยข้อศอก หรือเป็นแบบเซนเซอร์)
33 3.12.2. เคาน์เตอร์สำหรับพยาบาลสำหรับ แผนกอุบัติเหตุฉุกเฉิน แผนกผู้ป่วยวิกฤต และหอผู้ป่วยสามัญ (ยกเว้นหอผู้ป่วยพิเศษ ซึ่งเคาน์เตอร์พยาบาลอยู่ภายนอกห้องของผู้ป่วย) แผนกไตเทียม (ถ้ามี) ความสูงเคาน์เตอร์ระดับบนไม่ควรสูงเกินกว่า 90 เซนติเมตร จากระดับพื้นห้อง เพื่อไม่ให้บังสายตาในขณะเฝ้าดูผู้ป่วย
34 3.12.3. ห้องตรวจของแพทย์ มีอ่างล้างมือสำหรับแพทย์และเจ้าหน้าที่อย่างน้อย 2 ห้องตรวจ ต่อ 1 อ่าง
35 3.12.4. เตียงผู้ป่วยควรมีม่านกั้นระหว่างเตียงผู้ป่วยเพื่อบังสายตาระหว่างการรักษา และเพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้ป่วย
36 3.12.5. มีป้ายติดหน้าห้องหรือหน้าแผนกบริการในตำแหน่งที่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน
37 3.12.6. แผนกผู้ป่วยใน บริเวณตั้งเตียงผู้ป่วย ควรมีระยะระหว่างเตียง ไม่น้อยกว่า 1 เมตร และสามารถนำเปลเข็นเข้าเทียบเตียงผู้ป่วยได้โดยสะดวก
38 3.12.7. ห้องผ่าตัด ควรมีอ่างฟอกมือติดกับห้องผ่าตัดอย่างน้อย 2 อ่างต่อ 1 ห้องผ่าตัด และควรใช้ก๊อกน้ำชนิดไม่ใช้มือสัมผัส เช่น ก๊อกน้ำแบบใช้เข่าดันเปิด-ปิดน้ำ หรือ แบบเซนเซอร์
39 3.12.8. แผนกเภสัชกรรม มีตู้หรือชั้นเก็บยา เวชภัณฑ์ ที่เป็นสัดส่วน และมีตู้แยกเก็บยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทที่มีกุญแจปิดอย่างมีประสิทธิภาพ
40 3.12.9. แผนกเภสัชกรรม มีสถานที่ และโต๊ะสำหรับเตรียมยา – ผสมยา แยกเป็นสัดส่วนจากที่จัดยา
41 3.12.10. มีห้องจ่ายยา และจัดแบ่งพื้นที่ใช้สอยอย่างเหมาะสม (บริเวณจ่ายยา/ให้คำแนะนำผู้ป่วย/เก็บรักษายา/ผสมยาสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย)
42 3.12.11. กรณีมีการเตรียมยาสำหรับผู้ป่วยเฉพาะรายในโรงพยาบาล ให้มีสถานที่สำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย
43 3.12.12. แผนกรังสีวินิจฉัย มีห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าสำหรับผู้ป่วยเป็นสัดส่วนและมิดชิด
44 3.12.13. แผนกรังสีวินิจฉัย การตรวจพิเศษทางรังสีวิทยาในระบบทางเดินอาหาร ต้องมีห้องสุขาติดกับห้องตรวจ
45 3.12.14. แผนกผู้ป่วยหนัก บริเวณตั้งเตียงผู้ป่วย ควรมีระยะห่างระหว่างเตียงไม่น้อยกว่า 2 เมตร เพื่อให้สามารถวางอุปกรณ์ช่วยชีวิตและสะดวกในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ *** (รพ.ระดับ F ไม่ต้องประเมินข้อ 13.14)
46 3.12.15. แผนกไตเทียม มีสถานที่และเฟอร์นิเจอร์สำหรับพักคอยของญาติผู้ป่วย โดยแยกเป็นสัดส่วนต่างหากจากบริเวณส่วนของผู้ป่วย (รพ.ระดับ F ไม่ต้องประเมินข้อ 13.15)
47 3.12.16. แผนกไตเทียม บริเวณตั้งเตียงผู้ป่วยมีระยะห่างระหว่างเตียงไม่น้อยกว่า 1.10 เมตร และความกว้างของทางเดินระหว่างปลายเตียง ของสองฟากเตียงไม่น้อยกว่า 2 เมตร โดยมีพื้นที่ไม่ต่ำกว่าสี่ตารางเมตรต่อหนึ่งจุดบริการ และส่วนที่แคบที่สุดไม่น้อยกว่า 1.80 เมตร เพื่อให้มีพื้นที่สามารถช่วยเหลือและเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉินได้สะดวก (รพ.ระดับ F ไม่ต้องประเมินข้อ 13.16)
48 3.12.17. แผนกไตเทียม มีพื้นที่เตรียมน้ำบริสุทธิ์ พื้นที่ล้างและจัดเก็บตัวกรอง ที่ได้มาตรฐาน
49 3.12.18. แผนกบริการเทคนิคการแพทย์ มีสถานที่เก็บสิ่งส่งตรวจเหมาะสม สะดวกต่อผู้รับบริการ
50 3.12.19. แผนกบริการเทคนิคการแพทย์ มีสถานที่ปฏิบัติเหมาะสมปลอดภัย มีการแยกพื้นที่ปฏิบัติการเฉพาะ เช่น งานธนาคารเลือด งานจุลชีววิทยาคลินิก เป็นต้น
51 3.12.20. แผนกบริการเทคนิคการแพทย์ มีการเก็บรักษาวัตถุหรือสารเคมีและสารไวไฟ โดยจัดไว้เป็นหมวดหมู่ มีป้ายและฉลากแสดงถูกต้องครบถ้วน
52 3.12.21. แผนกบริการแพทย์แผนไทย ห้องอบไอน้ำสมุนไพรรวมต้องแยกห้องให้บริการชาย-หญิง หรือถ้าไม่สามารถแยกได้ ต้องบริหารจัดการเวลาการให้บริการแก่ผู้รับบริการชาย-หญิงได้อย่างเหมาะสม
53 3.12.22. แผนกบริการแพทย์แผนไทย ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า (ถ้ามี) ต้องมีขนาดตามเกณฑ์มาตรฐาน โดยแยกห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าชาย-หญิง แต่หากไม่สามารถแยกได้ ต้องบริหารจัดการเวลาการใช้ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าของผู้รับบริการชาย-หญิงได้อย่างเหมาะสม
54 3.12.23. แผนกบริการแพทย์แผนจีน เตียงสำหรับนวดหรือฝังเข็ม มีขนาดความกว้างไม่น้อยกว่า 0.70 เมตร ความยาวไม่น้อยกว่า 1.80 เมตร ความสูงไม่ต่ำกว่า 0.70 เมตร และระยะห่างระหว่างเตียงไม่น้อยกว่า 1 เมตร เตียงต้องมีลักษณะมั่นคงแข็งแรงตามมาตรฐานการประกอบโรคศิลปะสาขาแพทย์แผนจีนกำหนด
55 LS หมวดงานภูมิทัศน์
56 3.13.1. บริเวณพักผ่อน มีพื้นที่รองรับเพียงพอต่อผู้ใช้บริการ มีความร่มรื่น สวยงาม สงบมีอากาศถ่ายเทที่ดี และเหมาะสมกับผู้ใช้แต่ละวัยรวมทั้งเด็กและผู้สูงอายุ
57 3.13.2. พื้นที่ระหว่างอาคาร มีการจัดภูมิทัศน์ ใช้พรรณไม้ที่ดูแลรักษาง่าย หรือใช้วัสดุตกแต่ง พื้นผิวซึมน้ำ (Porous Pavement)
58 3.13.3. มีการจัดทำแผนปฏิบัติการ เช่น แผนการดูแลรักษาพืชพรรณไม้ แผนการแก้ไขน้ำท่วมขังบริเวณถนน-ทางเดินเท้า แผนการดูแลรักษาความสะอาดไม่ให้มีเศษขยะแผนการจัดให้มีถังขยะเพียงพอเป็นต้น
59 ST หมวดงานโครงสร้าง
60 3.14.1. มีแผนงานในการเฝ้าระวังให้อาคารมีสภาพพร้อมใช้งานและมั่นคงแข็งแรง
61 3.14.2. มีการตรวจสอบสภาพอาคารและบันทึกการตรวจสภาพอาคาร พร้อมมีรายงานผลต่อหัวหน้าหน่วยงานหรือผู้บริหารโรงพยาบาล
62 3.14.3. มีการตรวจสอบอาคารตามที่กฎหมายกำหนด
63 EE หมวดงานระบบไฟฟ้า
64 3.15.1. แผนผังระบบไฟฟ้ากำลังภายนอก
65 3.15.2. แนวสายไฟฟ้าแรงสูง/แรงต่ำ
66 3.15.3. บริเวณที่ติดตั้งหม้อแปลงไฟฟ้าแบบตั้งพื้น และนั่งร้าน
67 3.15.4. แผงเมนประธานหลักประจำอาคาร(ตู้ MDB),ตู้สวิตซ์ตัดตอน (PANEL BOARD)
68 3.15.5. ระบบการต่อลงดินของหม้อแปลงไฟฟ้า,แผงเมนประธานหลักประจำอาคาร(ตู้ MDB) และเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรองฉุกเฉิน
69 3.15.6. การต่อลงดินของอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในอาคาร
70 3.15.7. การต่อลงดินของระบบไฟฟ้า และอุปกรณ์ไฟฟ้า ในพื้นที่ที่มีการใช้เครื่องมืออุปกรณ์ไฟฟ้า (กลุ่ม 2) (ยกเว้นกลุ่ม 1) เช่น บริเวณห้องผ่าตัด, ห้อง ICU ฯลฯ ซึ่งการจ่ายไฟฟ้าที่ไม่ต่อเนื่องสามารถก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้
71 3.16.1. ระบบไฟฟ้าแสงสว่างภายนอกอาคาร
72 3.16.2. ระบบไฟฟ้าแสงสว่างภายในอาคาร
73 3.17.1. เครื่องกำเนิดไฟฟ้า
74 3.17.2. ห้องเครื่องกำเนิดไฟฟ้า และการติดตั้ง
75 3.17.3. การระบายอากาศ และแสงสว่างในห้องเครื่องกำเนิดไฟฟ้า
76 3.17.4. ถังน้ำมัน และน้ำมันสำรองของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า
77 3.17.5. ยูพีเอส (UPS)
78 3.17.6. โคมไฟแสงสว่างฉุกเฉิน และโคมไฟป้ายทางออกฉุกเฉิน
79 3.17.7. เต้ารับไฟฟ้า
80 3.18.1. สถานที่ติดตั้งระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ และอุปกรณ์ประกอบ
81 3.19.1. สถานที่ติดตั้งระบบป้องกันการเข้าออก ระบบทีวีวงจรปิด และอุปกรณ์ประกอบ
82 3.20.1. สถานที่ติดตั้งระบบโทรศัพท์,ระบบสื่อสารด้วยความเร็วสูง,ระบบเรียกพยาบาล และระบบเสียงประกาศ และอุปกรณ์ประกอบ
83 3.21.1. สถานที่ติดตั้งระบบป้องกันแรงดันและกระแสเกิน ระบบป้องกันฟ้าผ่า และอุปกรณ์ประกอบ
84 ME หมวดงานระบบเครื่องกล
85 3.22.1. มีการแยกประเภทของลิฟต์ตามการใช้งาน ได้แก่ ลิฟต์โดยสาร , ลิฟต์ขนของ, ลิฟต์สำหรับพนักงานดับเพลิง
86 3.22.2. มีขนาดและจำนวนเพียงพอต่อการใช้งาน
87 3.22.3. บริเวณโถงหน้าลิฟต์บรรทุกเตียงคนไข้ ต้องมีพื้นที่สามารถเข็นเปลนอนสวนกันได้
88 3.22.4. กำหนดให้มีลิฟต์สำหรับผู้พิการและทุพพลภาพสามารถใช้งานได้
89 3.22.5. บริเวณโถงหน้าลิฟต์และภายในห้องโดยสาร ต้องสะอาด มีระบบระบายอากาศและแสงสว่างภายในห้องโดยสารที่เหมาะสม
90 3.22.6. กรณีไฟฟ้าดับ จัดให้มีระบบ ARD (Automatic Rescue Device) เพื่อให้ ลิฟต์สามารถเคลื่อนไปเทียบยังชั้นที่ใกล้ที่สุดและประตู ลิฟต์จะต้องเปิดออกทันที
91 3.23.1. พื้นที่ให้บริการและพื้นที่ปฏิบัติงาน ต้องมีอากาศที่สะอาดจากภายนอกเติมเข้าสู่พื้นที่บริการ/ปฏิบัติงาน ให้ได้อัตราการถ่ายเทอากาศที่เหมาะสม ทั้งโดยวิธีธรรมชาติหรือวิธีกล
92 3.23.2. มีการควบคุมทิศทางการเคลื่อนที่ของอากาศในบริเวณห้องตรวจ
93 3.23.3. มีระบบควบคุมการติดเชื้อที่ได้มาตรฐาน
94 3.23.4. ห้องตรวจผู้ป่วยที่แสดงอาการโรคติดเชื้อทางอากาศ ต้องมีการควบคุมแรงดันอากาศ